การจ้างที่ ปรึกษาการตลาด ออนไลน์ หรือ ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ ให้ได้ผลจริงนั้น เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องเตรียมตัวเองอย่างไร บทความนี้จะพูดคุยในหลากหลายแง่มุมของขั้นตอนการทำงาน งบประมาณ สถานที่ ทรัพยากรบุคคล รวมไปถึง mindset ในการร่วมงานกับที่ปรึกษา เพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานได้จริงและหลากหลาย
ถ้านึกถึงที่ปรึกษาตอนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ
คำถามที่ ทีมงาน blackcatagency มักเจอบ่อย ๆ จากเจ้าของธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นก็คือ การขายของออนไลน์ต้องใช้เว็บขายของด้วยไหม เราใช้แต่เฟซบุ๊คแฟนเพจในการขายของออนไลน์ได้ไหม แต่ว่ากลับละเลยสิ่งสำคัญจริง ๆ สำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิเคราะห์ตลาด การวางเป้าหมายเชิงธุรกิจ รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ ฯลฯ
ที่ต้องเขียนละเอียดขนาดนี้นั้น เพราะว่าสำหรับ blackcatagency แล้ว ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนของฝ่ายการตลาดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้โฟกัสเพียงแค่การขายสินค้าอย่างเดียว และไม่ได้เพียงแค่มาช่วยแนะวิธีขายของออนไลน์เพียงเรื่องเดียว
เพราะว่าการตลาดที่มีประสิทธิผลจริง ๆ นั้น จะต้องถูกวางให้สอดประสานสนับสนุนกับองค์ประกอบอื่น ๆ ของธุรกิจดังนั้นที่ปรึกษานอกจากจะคอยดูแลเรื่องกลยุทธ์การตลาดออนไลน์และเทคนิคการตลาดออนไลน์แล้ว ยังรวมถึงการวางแผนธุรกิจไปจนถึงการสร้างแบรนด์ซึ่งไล่ไปตั้งแต
- วิเคราะห์ธุรกิจและตลาดในปัจจุบัน เพื่อค้นหาเป้าหมายในการทำธุรกิจที่ชัดเจน
- มองภาพรวมของธุรกิจให้ออก เพื่อนำมากำหนด position ของแบรนด์ วางกลยุทธธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด กลยุทธ์การขาย ฯลฯ
- หาช่องทางการตลาดออนไลน์ สื่อออนไลน์ต่าง ๆ
- วางแผนการตลาดออนไลน์ ซึ่งรวมถึง วางแผนสื่อโฆษณาออนไลน์ (ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็รวมออฟไลน์ไปด้วย แถมจริง ๆ แล้วมันทำรวมกันทั้งออนไลน์ออฟไลน์ไม่แยกจากกัน)
- วัดผลลัพธ์การตลาดทั้งหมด เพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์และการดำเนินงานต่าง ๆ
ดังนั้นถ้าจะจ้างที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ทาง blackcatagency ขอบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก ๆ แต่เจ้าของแบรนด์เจ้าของธุรกิจพึงใช้ประโยชน์จากที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ให้ได้ครอบคลุมทั้งหมดไม่ใช่เพียงแค่จ้างที่ปรึกษามาจัดการในประเด็นเล็ก ๆ เพียงประเด็นเดียว (ซึ่งแม้ว่าจะสบายงบประมาณมากกว่าแต่แผนการตลาดออนไลน์ที่ได้อาจไม่สามารถส่งผลกระทบได้อย่างเต็มที่นักเมื่อนำมาผสานกับแผนการตลาดภาพรวมที่แบรนด์ใช้อยู่)
ถ้านึกถึงที่ปรึกษาตอนที่เจอปัญหาหลังจากทำธุรกิจไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว
กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของธุรกิจทำเองไปได้ระดับหนึ่งแต่เกิดการชะงักงันเพราะเจอปัญหา พวกเขามักไปเข้าคอร์สอบรมการตลาด คอร์สบริหารธุรกิจ คอร์สกลยุทธ์และเทคนิคการตลาดออนไลน์มากมาย แต่กลับไม่สามารถระบุปัญหาและหาวิธีแก้ปัญหาธุรกิจไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเพราะเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายแต่ไม่ลึกซึ้งเพียงพอ ขาดความเข้าใจเพียงพอที่จะนำความรู้ที่หลากหลายมาเชื่อมต่อกันและใช้งานจริงได้
ดังนั้น blackcatagency จึงขอแนะนำให้เจ้าของธุรกิจจ้างที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะวิเคราะห์ปัญหาธุรกิจ เพื่อที่จะนำมาสร้างกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่สามารถแก้ไขปัญหาธุรกิจที่มีอยู่ได้ (ซึ่งจะมีปัจจัยและข้อจำกัดหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องงบประมาณ ทรัพยากรบุคคล สถานการณ์การตลาดในปัจจุบัน เป็นต้น) ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการศึกษารายละเอียดพอสมควรก่อนที่จะสามารถให้คำแนะนำที่ได้ผลจริง
สิ่งสำคัญที่ต้องจำก็คือ หลายครั้งที่การแก้ไขปัญหาหนึ่ง ๆ นั้นใช้เรื่องการตลาดอย่างเดียวไม่ได้ อาจต้องใช้ตั้งแต่เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ กลยุทธ์ทางออฟไลน์ ขั้นตอนการดำเนินงาน อาจไปจนถึงการปรับรูปแบบการบริหาร หรือโครงสร้างธุรกิจหรือองค์กรเลยทีเดียว ดังนั้นเจ้าของแบรนด์จึงควรให้อำนาจและขอบเขตการรับผิดชอบที่มากพอกับที่ปรึกษาด้วย (รวมทั้งทำตามคำแนะนำในประเด็นอื่น ๆ ด้วย)
เมื่อเข้าใจถึงลักษณะการขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาในแต่ละช่วงเวลาแล้ว ทาง blackcatagency จึงขออธิบายรายละเอียดในหลากหลายประเด็นให้เจ้าของธุรกิจ/เจ้าของแบรนด์รับรู้ไว้เกี่ยวกับการจ้างที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ เพื่อที่จะได้สามารถทำงานร่วมกันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ขั้นตอนการทำงานเมื่อจ้างที่ ปรึกษาการตลาด ออนไลน์ (และที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์)
ที่ปรึกษาแต่ละรายต่างมีเงื่อนไขและขอบเขตหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะจ้างที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์/ด้านการสร้างแบรนด์ เจ้าของธุรกิจพึงตั้งโจทย์ให้ชัดเจนว่าต้องการให้ที่ปรึกษาสร้างผลลัพธ์อะไรบ้าง มีขอบเขตจำกัดอยู่แค่ไหนบ้าง (ซึ่งจำเป็นต้องตกลงร่วมกันระหว่างที่ปรึกษากับเจ้าของธุรกิจนะครับ
มีอยู่หลายครั้งที่ blackcatagency จำเป็นต้องขอขอบเขตและอำนาจการดำเนินงานนอกเหนือไปจากสื่อออนไลน์เพียงอย่างเดียวในการให้คำปรึกษา ยกตัวอย่างเช่น การทำตลาดออนไลน์กับระบบตัวแทน เราก็จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการวางโครงสร้างราคาผลิตภัณฑ์ด้วย)
เจ้าของธุรกิจบอกรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของตนให้ที่ปรึกษาทราบ
- โดยจะลงรายละเอียดลึกขนาดไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับขอบเขตหน้าที่ของที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์รายนั้น
ที่ปรึกษาประเมินสถานการณ์ในปัจจุบัน
- ตรงนี้เจ้าของธุรกิจต้องให้ที่ปรึกษาสามารถ access ข้อมูลเชิงลึกของสื่อออนไลน์ที่มีอยู่แล้วเพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ของที่ปรึกษาเอง ผสมกับ insight บางส่วนจากเจ้าของธุรกิจด้วย
ที่ปรึกษากำหนดแนวทางในการทำงาน
- โดยบางรายอาจให้เป็นคำแนะนำระยะยาวแบบ Manual ประจำปีไปเลย แต่บางรายอาจกำหนดแนวทางการทำงานเป็นแคมเปญระยะสั้น โดยทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันดังนี้
- การวางแผนระยะยาว — ทำให้ได้แผนการทำงานชัดเจนตั้งแต่ต้นจากนั้นก็แค่ทำไปตามแผนข้อดีคือจ้างทีเดียวจบแต่ข้อเสียคือขาดความยืดหยุ่น ทำให้รับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ยาก จึงเหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่มีทักษะเพียงพอในการรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
- การวางแผนระยะสั้น — ได้แผนการทำงานที่ทำได้เลยทันที เห็นผลได้ทันทีเช่นกันข้อดีคือสามารถปรับตัวรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ดีแต่ว่าก็จำเป็นต้องมีการวัดผลที่ชัดเจนและแม่นยำเช่นกัน ซึ่งถ้าขาดประสบการณ์หรือไม่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ธุรกิจอาจหลงทางได้ง่าย ๆ
- หมายเหตุ — โดยมากแล้ว blackcatagency ใช้การทำงานแบบผสมผสาน ซึ่งก็คือจะวาดภาพรวมให้ทางเจ้าของธุรกิจเห็นเป้าหมายระยะยาว แต่จะกำหนดแนวทางการทำงานแบบระยะสั้น ซึ่งพอเสร็จงานแรก ก็จะวัดผล ประเมินสถานการณ์ และวางแผนการดำเนินงานระยะสั้นอันถัดไป ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งแบบนี้จะดีที่เจ้าของธุรกิจจะเห็นภาพเป้าหมายได้ชัด (จะได้ตกลงกันก่อนว่าโอเคไหม) และมีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำจากแผนแรกสู่แผนสอง สาม และแผนถัด ๆ ไป
ดำเนินงานตามแผนที่วางไว้
- บางกรณีเจ้าของธุรกิจอาจขอให้ที่ปรึกษารับงานบางส่วนออกไปทำนอกบริษัท หรือว่าที่เรียกว่า outsource นั่นเอง ซึ่งถ้าที่ปรึกษามีทีมงานอยู่แล้วก็อาจจะรับงานบางส่วนมาได้
- งานส่วนที่ outsource ออกไปทำนั้น จำเป็นต้องพิจารณาให้ดี เพราะบางอย่างอาจมีข้อเสียด้วย
- ถ้าเป็นงานที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว — ถ้าเป็นงาน routine จะ outsource ก็เหมาะสมแล้วเช่นงานเอกสารเป็นต้น
- ถ้าเป็นงานที่ต้องทำเป็นประจำ แต่จำเป็นต้องมีการติดต่อกับลูกค้า — จะ outsource ก็ได้ แต่จำเป็นต้องวางรูปแบบการติดต่อให้ดี เช่น กำหนดคำตอบสำหรับคำถามที่ถูกลูกค้าถามบ่อย กำหนดระยะเวลาในการตอบคำถามลูกค้าว่าห้ามเกินเท่าไหร่ เป็นต้น
- ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับ content — จำเป็นต้องวางแบรนด์ให้ชัดเจนทั้งในเรื่องของโทน ภาพลักษณ์รูปแบบการพูดคุย ฯลฯ เพื่อไม่ให้ content ทำให้ภาพของแบรนด์เป๋ไปจากสิ่งที่ต้องการ (หลายบริษัทหลายแบรนด์มัก outsource คนทำ content แล้วภาพลักษณ์บิดเบี้ยวมาก ๆ จึงพึงระวังให้ดี)
- งานอื่น ๆ — อาศัยการพิจารณาร่วมกันระหว่างที่ปรึกษากับเจ้าของบริษัท
- ส่วนใหญ่แล้ว ทีมงาน blackcatagency จะแนะนำให้ทางเจ้าของธุรกิจหาทีมงานมาทำงานส่วนต่าง ๆ เอง เนื่องจากบริษัทจะได้สามารถดำเนินงานเองต่อไปได้ด้วยตัวเองแม้หลังจากจบงานที่ปรึกษาแล้ว อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้จำเป็นต้องมีการเทรนนิ่งและอธิบายภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้กับทีมงานเป็นประจำและสม่ำเสมอ จึงเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและรายละเอียดมากพอสมควร
- เจ้าของแบรนด์ต้องส่งการบ้าน <– ข้อนี้ blackcatagency เจอมาบ้างแล้ว และเป็นปัญหาหนักมาก เลยขอแทรกไว้เพื่อบอกว่า การให้คำปรึกษาเฉย ๆ แต่เจ้าของแบรนด์ไม่ทำตามคำแนะนำ หรือทำแค่ 50% นั้น ก็จะไม่สามารถได้ผลลัพธ์ตามต้องการได้นะครับ
วัดผลการดำเนินงาน
- การวัดผลจัดเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ สำหรับการทำตลาดออนไลน์ นอกจากการวัดผลจะเป็นจุดแข็งอย่างมากของการตลาดออนไลน์เมื่อเทียบกับออฟไลน์แล้ว มันยังเป็นแนวทางการทำงานที่เหมาะสมกับพฤติกรรมลูกค้าและสังคมในปัจจุบันด้วย
- เครื่องมือที่ช่วยเหลือในการวัดผลการตลาดออนไลน์มีหลากหลายมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่สำคัญและควรมีอยู่ก็ได้แก่ (ที่ List ไว้ข้างล่างนี้ บางอันไม่ได้ใช้วัดผลโดยตรง แต่ช่วยให้การวัดผลง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพขึ้น)
- Google Analytics
- Google Search Console
- Google Tag Manager
- Facebook Pixel
ปรับแผนการทำงาน
- เมื่อวัดผลได้ชัดเจน และมีเป้าหมายชัดเจน เราก็จะทราบว่าเราอยู่ไกลจากเป้าหมายเท่าใด เรากำลังเดินทางถูกทิศทางหรือไม่ ซึ่งก็จะทำให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนการทำงานได้ดียิ่งขึ้นไปด้วย
- การอ่านผลการดำเนินงานในข้อ 5 นั้นมีความสำคัญต่อช่วงนี้เป็นอย่างมาก เจ้าของธุรกิจและที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ควรวิเคราะห์ผลลัพธ์ร่วมกัน และช่วยกันวางแผนขั้นต่อไปด้วยกัน
- เมื่อปรับเปลี่ยนแผนการทำงานแล้ว ที่ปรึกษาควรจะบอกสาเหตุของการปรับเปลี่ยน และระบุเป้าหมายของแผนงานใหม่ตัวนี้ให้ชัดเจน ซึ่ง่เจ้าของธุรกิจก็ควรเข้าใจในเหตุผลทั้งหมดในการปรับเปลี่ยนนี้ด้วย (เพื่อที่ต่อไปจะได้สามารถทำเองได้)
หาที่ ปรึกษาการตลาด ออนไลน์อย่างไรดี ต่างกับที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์อย่างไร รับงานวิทยากรการตลาดออนไลน์ด้วยไหม
นี่เป็นคำถามที่พบเจอบ่อยมาก ๆ และตอบได้ยากมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากที่ปรึกษาแต่ละรายมีพื้นฐานและทักษะที่ต่างกัน นอกจากนี้แล้ว คำว่าสร้างแบรนด์ยังถูกแปลความหมายแตกต่างกันออกไปด้วย (แล้วแต่เจ้าของธุรกิจกับที่ปรึกษา) ดังนั้นเราจะขอตอบในมุมมองและประสบการณ์ของเราเองนะครับ
- blackcatagency เป็นทั้งที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์และที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะวางแผนด้านการสร้างแบรนด์ด้วยการใช้ Content Marketing เป็นหลักอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังรับให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์กับบริษัท B2B ด้วย SEO Content อีกด้วย / สำหรับบริษัทอื่น ๆ นั้น บางรายจะรับเฉพาะการตลาดออนไลน์โดยจะเน้นการโฆษณาเป็นหลักเพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่แนวทางของเรา
- การสร้างแบรนด์ออนไลน์นั้น แม้ว่าจะใช้เทคนิคพื้นฐานเดียวกับการตลาดออนไลน์ แต่จะเน้นทางด้านการใช้ content เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์และเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจดจำแบรนด์ได้ เพื่อจะนำไปสู่ยอดขายได้ในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม มีการทำตลาดออนไลน์ด้วยการใช้โฆษณาอย่างเดียวและสามารถสร้างยอดขายได้เช่นกัน ดังนั้นเจ้าของแบรนด์พึงศึกษาธุรกิจตัวเองให้รอบคอบก่อนที่จะติดต่อที่ปรึกษาให้เข้าไปทำงาน
- blackcatagency รับงานบรรยายด้านการตลาดออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่ปรึกษาธุรกิจทั้งหลายก็มักจะรับงานวิทยากรอยู่ด้วย และหลายธูรกิจก็ใช้วิธีการจ้างที่ปรึกษาหลังจากที่เข้าคอร์สไปฟังการบรรยายเช่นกัน
- สำหรับผู้ที่สนใจรับคำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์หรือด้านการตลาดออนไลน์จาก blackcatagency สามารถติดต่อเราได้ที่ Line @mr.blackcat
หมายเหตุสำคัญ
- ไม่ว่าจะมีการวางแผนใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแผนเริ่มต้น แผนระยะยาว ระยะสั้น หรือแผนใหม่ที่เพิ่งถูกปรับเปลี่ยน ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ควรระบุสาเหตุของการใช้แผนนั้น และบอกเป้าหมายที่ต้องการได้จากแผนการนั้นด้วย — ถ้าไม่บอก เจ้าของธุรกิจก็ต้องถาม และพึงสงสัยตลอดเวลา
- การระบุเหตุผลของการตัดสินใจใด ๆ จะช่วยให้ผู้ดำเนินการสามารถนำหลักการนี้ไปใช้กับการตัดสินใจในสถานการณ์อื่น ๆ ได้ ซึ่งจะดีต่อบริษัทในระยะยาว
- การบอกเป้าหมายของการดำเนินงานใด ๆ จะช่วยให้ผู้ดำเนินการสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองตามสถานการณ์ได้ ตราบใดที่ยังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์นั้น ๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้เองอย่างเหมาะสม
- สำหรับบางธุรกิจนั้น โดยเฉพาะธุรกิจเดิม ๆ ที่กำลังถูก disruption นั้น บางครั้งจำเป็นจะต้องเปลี่ยน business model เสียก่อน เราแนะนำให้ลองอ่านบทความเรื่อง การเขียนแผนธุรกิจด้วยการสร้างโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง ดูก่อนนะครับ
นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีประเด็นอื่น ๆ อย่างเช่น งบประมาณในการทำตลาดออนไลน์ สถานที่ในการให้คำปรึกษา ทรัพยากรบุคคลที่มาช่วยงานการตลาดออนไลน์ ตลอดไปจนถึง Mindset ของเจ้าของธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ รวมถึงผู้บริหารทั้งหลาย ที่จะทำงานร่วมกันที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์อีกด้วย
หน้าที่ของ ที่ปรึกษาการตลาด ออนไลน์ มีอะไรบ้าง?
ถ้าจะให้ผมบรรยายโดยละเอียดเลยนั้น ก็คงจะยาวมากๆ เอาเป็นว่า ผมจะอธิบายแบบคร่าวๆ ก็แล้วกันนะครับ เอาแค่พอให้เห็นภาพ ว่าจริงๆ แล้ว ที่ปรึกษาในบริษัท หรือในองค์ เค้าทำอะไรกันบ้าง
ก็มีหน้าที่ ให้คำปรึกษา ซึ่งตรงนี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมากๆ เพราะคำว่า “ให้คำปรึกษา” นั้นหมายถึงทุกเรื่อง และทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ถ้าจะให้เห็นภาพ ก็ได้แก่ เรื่องเล็กๆ อย่างการออกแบบโลโก้ของแบรนด์สินค้า ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่าง ให้คำปรึกษา ว่าควรจะขยายสาขา หรือเพิ่มเงินลงทุนหรือไม่? อะไรประมาณนี้ มันต้องครอบคลุมทุกเรื่องจริงๆ นะครับ เพราะการตลาด มันไม่ใช่แค่ การซื้อโฆษณา หรือการสร้างโฆษณาเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องหมายถึง การสร้างแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้า ได้รู้จัก และมีความรู้สึกดีๆ กับแบรนด์ของเราอีกด้วย นั่นแปลว่า ที่ปรึกษา ต้องเข้าไปยุ่งในทุกเรื่อง ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ กระบวนการผลิต การขาย ไปจนถึง การให้บริการ หลังการขายเลยนะครับ
ถ้าคุณคิดว่า จะจ้างที่ปรึกษา มาให้คำปรึกษา แค่จะทำยังไงให้ขายดี? จะทำยังไงถึงเพิ่มยอดขายได้เร็วๆ? แบบนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของที่ปรึกษาครับ มันเป็นเรื่องของ เทคนิคในการขายมากกว่าครับ ซึ่งส่วนใหญ่ ที่ต้องการขายเยอะ ขายเร็วแบบนี้ มักจะไม่ต้องการสร้างแบรนด์ หรือทำเป็นระยะยาว มาเร็วไปเร็ว แบบนี้ ส่วนใหญ่ ผมจะไม่รับงานครับ ผมจะเน้นรับงาน กับบริษัท หรือคนที่ต้องการจะสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดอย่างจริงจัง ทำธุรกิจระยะยาว ( ไม่ใช่มาทำกับผมนะครับ หมายถึง ธุรกิจของลูกค้า ต้องเปิดให้บริการ หรือขายสินค้าระยะยาว ไม่ใช่ขายแค่เอากำไร แป็บๆ แล้วก็ปิดหนี แล้วไปเปิดเป็นแบรนด์ใหม่อีก แบบนี้ แสดงให้เห็นเลยว่า เน้นผลกำไร ไม่เน้นคุณภาพ )
เรื่องของการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การทำเว็บไซต์ หรือ Facebook นั้น ไม่ต้องพูดถึงครับ มันเป็นเรื่องที่ต้องรู้ และต้องให้คำปรึกษาอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ ค่าบริการ หรือ เงินเดือนของที่ปรึกษานั้น แพงมาก อย่างในบริษัทใหญ่ๆ ที่ปรึกษา มีเงินเดือนเกือบแสนบาท ไม่ใช่เพราะเค้าทำงานได้เก่งกว่าคนอื่นหลายเท่า แต่เป็นเพราะเค้าฉลาด ทันคน มีประสบการณ์เยอะ และมีสายตาที่กว้างไกล คำปรึกษาที่เอ่ยออกมาแนะนำนั้น จึงมีค่าดั่งทอง
ยังมีลูกค้าอีกเป็นจำนวนมาก ที่เข้าใจผิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า การตลาดมันมีสูตรสำเร็จ สามารถจ้างบริษัทการตลาดให้ทำ การตลาด ทั้งหมดให้ได้ โดยที่ตัวเอง ไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ครับ สิ่งที่คุณต้องการจาก ที่ปรึกษาการตลาด ก็คือ คำแนะนำ ที่จะช่วยพลิกชีวิต หรือเปลี่ยนจากบริษัทที่ใกล้เจ๊ง หรือร้านอาหารที่ไม่มีคนเข้ามากิน กลายเป็นบริษัทที่รุ่งเรือง หรือร้านอาหารที่ขายดี จนโด่งดัง นี่ต่างหาก คือสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ใช่ต้องการให้เขา มาทำการตลาดให้
เพราะเรื่องของการทำ การตลาดนั้น เจ้าของธุรกิจ ต้องทำเอง และต้องมีการฟอร์มทีมการตลาดของตัวเอง เพื่อดูแลในระยะยาว จะไปหวังพึ่ง ยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ เสมอไปไม่ได้ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ตั้งทีมการตลาด และจ้างที่ปรึกษา เพื่อให้มาแนะนำ รวมทั้งฝึกสอน ทีมการตลาดของคุณ ให้ทำการตลาดเป็น เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณ สามารถเดินได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน ถ้าคุณไม่คิดทำแบบนี้ คุณก็ต้องจ้างบริษัทการตลาดอยู่เรื่อยไป กลายเป็นทำให้ธุรกิจตัวเองต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ ผิดกับหลักการ ในการทำการตลาดออนไลน์ ที่ลดต้นทุนให้น้อย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาชนะคู่แข่ง และเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น
ปรึกษาการตลาด คู่แข่งขายของแพงกว่า แต่ทำไมยังขายได้มากกว่า? กลยุทธ์การตลาดออนไลน์
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในโลกออนไลน์ปัจจุบันก็คือ มีหลายคน ที่ขายสินค้า (ชนิดเดียวกัน) แต่ขายได้ไม่เท่ากัน บางคนก็ขายได้มากกว่า บางคนก็ขายได้น้อยกว่า ขึ้นอยู่กับ การตลาด ที่แต่ละคนจะทำ แต่สิ่งที่ดูจะขัดแย้งก็คือ บางคน ขายสินค้าแพงกว่าคู่แข่งเยอะ แต่สามารถทำยอดขายได้มากกว่า เจ้าที่ขายถูกกว่า ชนิดที่เรียกว่า ทิ้งกันหลายช่วงตัว สาเหตุเป็นเพราะอะไร? ( คำถามนี้ ลูกค้าของผม มักจะสอบถามผมเข้ามาเป็นประจำ ) นั่นเป็นเพราะเค้ารู้จักใช้
ผมเชื่อว่า ถ้าพูดถึงคำว่า กลยุทธ์การตลาด หลายคนคงจะพอมีความเข้าใจ หรือมองเห็นภาพบ้าง ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การใช้เทคนิคต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มศักยภายในการทำ การตลาด ทำให้เหนือกว่าคู่แข่ง และเพิ่มยอดขายได้ แต่ถ้าพูดถึงคำว่า กลยุทธ์ ของการตลาดออนไลน์ หลายคนอาจจะงงว่า มันคืออะไร แล้วมันเป็นยังไงกัน กับ กลยุทธ์ เพื่อ
มีแค่นี้เองจริงๆ ครับ คนเราทุกคน ก็อยากได้สินค้า ที่ตัวเองต้องการ ในราคาที่ถูกที่สุด เหมือนกันทั้งนั้นแหละครับ แต่.. ก็ต้องการคุณภาพด้วย หรือที่เรามักจะเรียกว่า “ถูกและดี” ซึ่งจริงๆ แล้ว มันก็ไม่มีหรอกครับ ไอ้ที่ว่า ถูกแล้วดี แต่ถ้า ถูกแล้วพอใช้ อันนี้มีครับ ส่วนใหญ่ คนที่ขายของได้เป็นกอบเป็นกำ ก็มักจะเอาเรื่องของ “ถูกและพอใช้” มาทำให้ลูกค้า รู้สึกว่า “ถูกและดี” และ “คุ้มค่าที่จะซื้อ” ทั้งหมดมันก็แค่นี้เองครับ หัวใจหลักๆ ของมันก็มีแค่นี้
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ คือการทำด้วยวิธีใดๆ ก็ได้ ให้ลูกค้า รู้สึกว่า สินค้าของเรา ถูกและดี และคุ้มค่าที่จะซื้อ ซึ่งมันมีหลากหลายเทคนิค แตกต่างกันไป ตามชนิดของสินค้าและบริการ รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับ กลุ่มของเป้าหมายอีกด้วย ว่าเป็นแบบไหน คำว่า กลยุทธ์ จะไม่มีสูตรตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับ การประยุกต์มาใช้งาน ให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้า และกลุ่มลูกค้า ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า ต้องทำให้ ถูกที่ ถูกเวลา และตรงตามความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมาย แค่นี้ยอดขาย ก็พุ่งกระฉูดแล้วครับ
การที่จะคิดกลยุทธ์ขึ้นมานั้น จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้คิด ถึงจะดีที่สุดครับ เนื่องจากว่า การคิดกลยุทธ์ขึ้นมานั้น มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เปรียบเสมือน ดาบสองคม ข้อดี ก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ อาจทำให้เสียแบรนด์ได้ คำว่า “เสียแบรนด์” ก็คือ ทำให้แบรนด์ เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือทำให้ลูกค้า เริ่มสับสน มีความรู้สึกไม่ดีกับแบรนด์ การจะคิดกลยุทธ์ใดๆ ขึ้นมา เพื่อกระตุ้นยอดขาย จำเป็นต้องวิเคราะห์ และพิจารณาให้มากๆ ถ้าจะให้ดี ควาจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ด้าน
ที่ผมต้องเตือนกันแบบนี้ ก็เพราะว่า ถ้าเสียแบรนด์ หรือแบรนด์มีตำหนิ มีภาพลักษณ์ หรือส่อว่า จะมีภาพลักษณ์ไม่ดี หรืออะไรก็ตาม ที่ดูแล้ว ขัดแย้งกับตัวเอง มันจะแก้ไม่ได้นะครับ เสียแล้วก็เสียเลย อย่างที่หลายๆ คน คงเคยได้ยินกับคำว่า “รีแบรนด์” หรือการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ เพราะมันมัวหมองแล้ว จึงต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ลูกค้ายอมรับยังไงล่ะครับ เรื่องแบบนี้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ด้านการตลาดออนไลน์ ดีที่สุดครับ รับปรึกษาการตลาด