
วิธีการเป็นนักสืบ นักสืบคือใคร นี่คือบุคคลที่มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะไม่แสดงขอบเขตของเขาต่อสาธารณะ ตัดสินใจในสิ่งที่คุณต้องการ: เพื่อเป็นนักสืบที่ดีหรือได้รับการยอมรับในฐานะนักสืบระดับโลกอย่าง Sherlock Holmes? ในกรณีที่สองคุณหันไปหาที่อยู่ผิดคุณต้องบุกโจมตีสถาบันการละครเพราะประชาชนจะไม่รู้เรื่องนักสืบจริง คนที่ประกอบอาชีพนี้สามารถเป็นเจ้านายของคุณเพื่อนเพื่อนบ้านที่รักการสังเกตและจดจำของนักสืบ
ค้นหาเบาะแสและเบาะแสของอาชญากรรมที่น่าสนใจ – มันฟังดูสวยงามและมีเสน่ห์ แต่น่าเสียดายที่ในชีวิตจริงนั้นแตกต่างกัน
เกี่ยวกับอาชีพนักสืบ วิธีการเป็นนักสืบ
ดังนั้นคุณกังวลว่าจะเป็นนักสืบได้อย่างไร ให้เราตรวจสอบตำนานเกี่ยวกับกิจกรรมนี้เพื่อให้คุณแน่ใจว่าคุณต้องการจริงๆ
“นักสืบกำลังสืบสวนอาชญากรรมที่น่าสนใจ”
ไม่ต้องสงสัยนักสืบมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอาชญากรรม แต่ไม่ใช่ในลักษณะที่ปรากฏในภาพยนตร์ ในกรณีส่วนใหญ่นักสืบรื้อทารุณโหดร้ายหรือดูคู่สมรสที่โชคร้ายของคนร่ำรวยที่ได้ตัดสินใจที่จะทำให้คนรัก
“นักสืบได้รับมาก”
ผู้คนมีอาชีพนี้ได้ดีจริงๆถ้าพวกเขาเป็นคนทำงานในอุดมคติและสามารถสร้างตัวเองในแวดวงแคบ ๆ ซึ่งห่างไกลจากความเรียบง่าย
“นักสืบใช้ชีวิตที่น่าสนใจ”
อาจเป็นนักสืบและใช้ชีวิตที่น่าสนใจ แต่ก็เป็นงานอดิเรกส่วนตัวของพวกเขา พวกเขาเช่นเดียวกับผู้คนในวิชาชีพอื่น ๆ แบ่งปันงานและพักผ่อน การเปิดเผยอาชญากรรมเป็นกิจกรรมประจำวันของพวกเขารายได้ และชีวิตของนักสืบนั้นน่าสนใจการเดินทางงานอดิเรกและความสำเร็จส่วนตัว
ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะเป็นนักสืบเหรอ? จากนั้นพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเป็นนักสืบเอกชน หากไม่มีการฝึกอบรมที่เหมาะสมโดยที่ไม่มีการพัฒนาคุณภาพส่วนบุคคลและทำงานหนักในตัวคุณเองก็ไม่เพียงพอ
นักสืบเอกชน: จะเป็นมืออาชีพได้อย่างไร
พูดคุยเกี่ยวกับอาชีพที่ไม่พึงประสงค์สำหรับคนส่วนใหญ่ – ถูกกฎหมาย แน่นอนคุณจะต้องออกสถานะผู้ประกอบการรายบุคคลและลงทะเบียนเป็นนักสืบเอกชน ก่อนที่คุณจะได้รับใบอนุญาตคุณจะต้องส่งเอกสารและข้อมูลอ้างอิงจำนวนมากรวมถึงรูปถ่ายของคุณ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด คุณสามารถเป็นนักสืบได้ก็ต่อเมื่อคุณ:
- มีการศึกษากฎหมาย
- เสร็จสิ้นหลักสูตรการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง
- มีประสบการณ์ด้านการบังคับใช้กฎหมาย 3 ปี
ตัวเลือกหลังเป็นไปไม่ได้หากไม่มีการศึกษาทางกฎหมายอีกครั้ง ดังนั้นคำถามที่ว่าจะเป็นนักสืบในรัสเซียได้อย่างไรนั้นคุณจำเป็นต้องมีความตระหนักในกฎหมายของประเทศ แต่ฝ่ายกฎหมายไม่ใช่ปัญหาเดียวในเส้นทางสู่ความเป็นมืออาชีพ
พูดคุยเกี่ยวกับทักษะการสืบสวนส่วนตัว ประการแรกไม่มีมหาวิทยาลัยที่จะอุทิศคุณให้เป็นคดีนักสืบ มีสถาบันการศึกษาระดับสูงที่มีอคติทางกฎหมายที่จะสอนรายละเอียดปลีกย่อยให้คุณสอนอาชีพของนักวิจัยและพัฒนาทักษะในการป้องกันตัวเอง คุณจะต้องศึกษาเรื่องนักสืบด้วยตัวเอง
มีหลักสูตรมากมายที่จะทำให้คุณเป็นนักสืบที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเวลาอันสั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะพิสูจน์ตัวเองได้ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้าเรียนหลักสูตรให้ตรวจสอบความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักสูตรเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจว่าขั้นตอนของคุณเป็นธรรม
ตอนนี้เรามาพูดถึงนักสืบชื่อดังระดับโลกเกี่ยวกับ Sherlock Holmes จากหนังสือเราสามารถเรียนรู้บทเรียนล้ำค่าสองสามอย่างที่จะช่วยให้คุณเป็นนักสืบที่ดี:
- หากต้องการความก้าวหน้าในพื้นที่นี้ด้วยความช่วยเหลือจากพรสวรรค์จะไม่ทำงาน คุณจะต้องทำงานหนักด้วยตัวคุณเอง
- อย่าใส่ใจกับภาพรวม แต่เพื่อรายละเอียด ฝึกฝนพยายามคาดการณ์การกระทำหรือแก้ไขความปรารถนาของเพื่อนหรือคนที่คุณรัก วิธีการนิรนัยไม่ได้ถูกยกเลิก
- จำไว้ว่าการทดสอบนั้นน่าสนใจ อย่ากังวลถ้าคุณไม่สามารถแก้ปัญหาได้ มีคำถามมากมายในชีวิตเสมอกว่าคำตอบ ใจเย็น ๆ
- ทำงานกับพันธมิตรเสมอ นี่คือที่ทำงานของจิตวิทยาสามัญ เราต้องการคนที่เราสามารถพูดคุยรายละเอียดที่คุณสามารถบ่นได้เสมอ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะรู้สึกถึงการสนับสนุน
- คุณต้องสร้างตัวคุณเองในฐานะผู้รับผิดชอบซึ่งงานนักสืบไม่ได้เป็นเพียงข้อผูกมัด แต่เป็นงานอดิเรกที่แท้จริง ในกรณีนี้ผู้คนจะติดต่อคุณ
- ดูปัญหาทั้งหมดจากด้านต่าง ๆ อย่าใช้วิธีเดียวเท่านั้นในการแก้ปัญหา
หากคุณอยากเป็นนักสืบ
หากไม่มีการพัฒนาคุณสมบัติส่วนบุคคลจะไม่สามารถประสบความสำเร็จในกิจกรรมใด ๆ การตรวจสอบส่วนตัวต้องใช้งานพิเศษในตัวคุณ คุณต้องพัฒนาคุณสมบัติเหล่านี้อย่างแน่นอน:
- การแสวงหาความรู้ใหม่ คุณจะต้องอ่านอย่างถ่องแท้และรู้จักพื้นที่ต่าง ๆ ของชีวิตและไม่เพียง แต่สนใจข้อมูลที่น่าสนใจ
- พัฒนาความสนใจ มันจะต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อความสมบูรณ์แบบไม่เช่นนั้นคุณจะไม่สามารถจดจ่อกับรายละเอียดได้
- เมื่อทำงานกับลูกค้าและสอบถามข้อมูลคุณไม่สามารถทำโดยปราศจากความสุภาพและความสงบต่อผู้อื่น
- คุณต้องมีความเชี่ยวชาญในด้านจิตวิทยา สิ่งนี้มีความสำคัญเนื่องจากอาชีพของคุณต้องการทักษะในการเปิดเผยการโกหกหรือการสร้างแบบจำลองพฤติกรรมของคนรอบตัว
เพื่อพัฒนาคุณภาพเหล่านี้เพื่อความสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องยากมาก เรื่องราวนักสืบที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีความสามารถโดยกำเนิด
อาชีพผิดพลาด
แน่นอนว่าการเป็นนักสืบนั้นเป็นคำถามเพียงครึ่งเดียว คุณต้องพร้อมเผชิญกับปัญหาในการทำงานของคุณ ในการเป็นนักสืบที่ดีคุณต้องคาดการณ์ล่วงหน้าและสามารถออกจากสถานการณ์ใด ๆ ได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณจะพบ:
- คุณไม่สามารถนำหลักฐานภาพถ่ายและวิดีโอจากที่เกิดเหตุมาได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า เราจะต้องค้นหาเบาะแสที่ไม่อาจปฏิเสธได้อื่น ๆ
- คุณไม่สามารถฟังการสนทนาโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ
- คุณไม่สามารถใช้อาวุธได้แม้ในกรณีที่มีอันตราย
- ห้ามมิให้คุณแนะนำตัวในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- แม้ตามคำร้องขอของลูกค้าคุณไม่มีสิทธิ์ปกปิดข้อมูลที่คุณทราบจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
งานควรทราบประเด็นเหล่านี้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการออกกฎหมายมีเป้าหมายที่ดี
ในกรณีที่คุณถูกปิดถนนเพื่อการตรวจสอบส่วนตัว
มีข้อ จำกัด บางอย่างในอาชีพนี้ ค้นหาบทเรียนอื่นถ้า:
- คุณอายุต่ำกว่า 21 ปี
- คุณมีอาการป่วยทางจิต
- คุณได้รับการตัดสิน
- คุณอยู่ระหว่างการสอบสวน
- พวกเขาถูกไล่ออกจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายบนพื้นฐานของสถานการณ์ประนีประนอม
อย่าท้อแท้หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ตรงกับคุณเนื่องจากมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถทำได้
อันตรายของอาชีพ
คุณต้องเข้าใจว่านักสืบเอกชนทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายที่จะนำอาชญากรไปยังน้ำใส หากคุณให้ตัวเองออกไปคุณสามารถลองกำจัดหรือนำไปทดแทน นี่คือเหตุผลที่คุณต้องตื่นตัวอยู่เสมอและสามารถทำงานได้อย่างเปิดเผยโดยไม่ทิ้งร่องรอยแม้แต่น้อยในการสอบสวนของคุณ
นักสืบใครก็อยากเป็น
สิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝัน มันเท่ห์ มันดูฉลาด มันดูลึกลับ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้…. พื้นฐานต้องมีความอดทน ช่างสังเกตุ แคล่วคล่องว่องไว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีไหวพริบปฎิภานรอบตัว ต้องพร้อมเผชิญกับทุกสถานการณ์ ซึ่งโอกาสและจังหวะชีวิตไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคนที่จะมีโอกาสได้สัมผัส…และมันคืออาชีพ “ นักสืบ..ใครๆก็อยากเป็น “ นั่นเอง
คำว่า”นักสืบ” ฟังดูเท่ห์จริงไรจริง แต่การที่จะทำหน้าที่นี้ได้ดีและสมบูรณ์แบบนั้น ต้องอาศัยหลายองค์ประกอบภายในบุคคลเดียวกัน ในความเป็นจริงก็มีทั้งเป็นไปได้ และอาจจะไม่ครบก็ได้ เพราะว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาย่อมมีขีดความสามารถ หรือพรสวรรค์ ที่ฟ้าประทานมาไม่เท่ากัน บางคนได้มาครบเครื่อง ดั่งที่เราๆท่านๆ ทั้งหลายเคยได้ยินคือคำว่า “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ หรือ Born to be“ นั่นเอง แต่บางคนอาจจะได้มาน้อยกว่าคนอื่นๆซึ่งไม่แปลกและไม่มีอะไรถูกหรือผิดเช่นเดียวกัน กล่าวคือ บางคนเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ ในขณะเดียวกันใครบางคนก็เกิดมาเพื่อเป็นผู้ตาม หรือรับคำสั่งเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ มองอีกด้านนึงก็จะเห็นความลงตัวจากการที่มีบุคคลหลายๆลักษณะ ปนเปกันในโลกของความเป็นจริง เพื่อสร้างสมดุลหรือเติมเต็มส่วนที่ขาดให้แก่กันและกันได้อย่างลงตัว ด้วยบุคคลิกลักษณะเฉพาะตัว ต่างคนต่างที่มาย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน แต่เมื่อค้นหาและดึงศักยภาพทีมีอยู่ในตัวออกมาใช้ให้เหมาะกับงานก็จะเห็นว่า เพชรในตมมีจริงเช่นเดียวกันในงานนักสืบ ย่อมมีทั้งคนที่พร้อมมากที่สุด, มาก , ปานกลาง และน้อย ตามลำดับ… กล่าวคือ
กลุ่มที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ มักจะมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งบุคคลิกลักษณะภายในและภายนอก ซึ่งบางคนเพียงแค่มองผิวเผินก็จะเห็นได้ว่ามีความเป็นผู้นำสูง ด้วยลักษะทางกายภาพ เมื่อได้เรียนรู้หรือสัมผัสตัวตนระดับนึง จะเห็นถึงความเป็นคนกล้าคิดกล้าทำและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้เร็ว มีทักษะการสื่อสารเจรจาต่อรองและการจดจำที่ดีเยี่ยม เป็นต้น
กลุ่มที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ตาม มักจะมีอีกบุคคลิก เช่น บางคนชอบเก็บตัวอยู่เงียบๆ ไม่ชอบแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งเร้ารอบตัวหรือต่อหน้าสาธารณชน แต่ก็ไม่ขัดแย้งถ้าจะต้องทำตามความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่หรือรับคำสั่งต่างๆเช่นกัน… และการที่จะหล่อหลอมความคิดในการทำงานหรือเรื่องราวต่างๆให้เป็นหนึ่งเดียว ในขณะปฎิบัติหน้าที่นั้น ในงานนักสืบก็เฉกเช่นเดียวกันกับงานอื่นๆ ซึ่งต้องใช้ไหวพริบ ความตื่นตัว กระตือรือร้น มากกว่างานอื่นๆหลายเท่าตัว+++ และต้องอาศัยทั้งความเป็นศาสตร์และศิลป์ในเวลาเดียวกัน
ในความเป็นศาสตร์นั้น เปรียบได้กับคนที่มีภาวะผู้นำสูง มักจะใช้ไหวพริบ หรือการนำตรรกะเชิงวิชาการต่างๆในการวิเคราะห์ลักษณะงาน วางแผนการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องและบรรลุเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ซึ่งยังไม่เพียงพอจริงๆแล้วในการทำงานยังต้องการคนที่มีทักษะด้านอื่นๆด้วย เช่น ทักษะทางด้านอารมณ์ (Soft skills) หรือเปรียบได้กับความเป็นศิลป์ นั่นเอง ทักษะข้อนี้สำคัญมากพอกันกับความรู้เชิงวิชาการ หรือเรียกว่าเป็นของคู่กัน เป็นตัวเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างลงตัว (เหมือนขาว-ดำที่มาคู่กัน… อันนี้ไม่เดี่ยวกับนักสืบล่ะ…หลงประเด็น เอิ้กๆๆ)
1.ความเป็นผู้นำและความคิดสร้างสรรค์ (Leadership & Creativity) ทักษะการเป็นผู้นำนั้นไม่จำเป็นต้องมีในหัวหน้าเท่านั้น แต่ทุกคนควรมีทักษะนี้ติดตัว รวมถึงมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถนำเสนอได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับคำสั่งฝ่ายเดียว ในบางสถานการณ์ที่เร่งด่วน ที่ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเฉพาะหน้าก็ควรตัดสินใจลงมือทำได้ทันท่วงที เพื่อป้องกันความเสียหายของงาน หรือเพิ่มประสิทธิภาพของงาน
2.การสื่อสาร (Communication)ในการทำงานหรืออยู่ร่วมกันบนโลกนี้ต้องอาศัย การสื่อสารไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆการติดต่อสื่อสารที่ถูกต้องรวดเร็วภายในระยะเวลาที่กำหนด ย่อมส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ในงานนักสืบก็เช่นเดียวกัน นับเป็นอีกทักษะที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้ส่งสาร หรือผู้รับสาร ถ้าตีความหรือการสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพ อาจนำมาซึ่งความล่าช้าหรืออาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่องานได้
3.การทำงานเป็นทีม(Team work)ในการทำงานไม่มีคำว่าพระเอกหรือฉายเดี่ยว(One man show)มีแต่คำว่าการก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคงและพร้อมเพรียงกัน นักสืบทุกคนในองค์กรคือฟันเฟืองที่เป็นตัวขับเคลื่อนงานให้สำเร็จในที่สุด ดังนั้นทักษะการร่วมมือร่วมแรงกันจะช่วยให้ศักยภาพของการทำงานร่วมกับผู้อื่นหรือการทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสํานักงานนักสืบ
นิสัยแบบนี้ เหมาะกับอาชีพแบบไหน วิธีการเป็นนักสืบ
1.ชอบสงสัย??
เป็นบุคลิกและนิสัย เฉกเช่น เดียวกับ นักสืบ ชอบตั้งคำถาม คิดค้น และนำมาวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง หากไม่สามารถค้นหาคำตอบได้ ก็จะเป็นคนพยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้ตัวเองหาข้อสงสัย
อาชีพที่เหมาะสม : นักเศรษฐศาสตร์ แพทย์ นักมนุษยวิทยา นักวางแผน ผู้ช่วยแพทย์ในห้องทดลอง ครูสอนคณิตศาสตร์ นักกายภาพ จักษุแพทย์ นักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักสมุทรศาสตร์ นักสถิติ นักสืบ เป็นต้น เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์สูง
2. กล้าทำทุกอย่าง!!
คนที่กล้าทำทุกอย่าง กล้าได้ กล้าเสีย มักมีความเป็นผู้นำสูง ชอบแสดงความคิดเห็น มีทักษะในการพูดเพื่อโน้มน้าว ตรงไปตรงมา กล้าตัดสินใจ มีความรับผิดชอบ มีระเบียบ วินัย และชอบการวางแผนให้บรรลุเป้าหมาย
อาชีพที่เหมาะสม : ข้าราชการ ทนายความ ผู้พิพากษา นักการเมือง เจ้าของกิจการ นักขับเคลื่อนสังคม พิธีกร เป็นต้น เป็นอาชีพเกี่ยวกับการเป็นผู้นำเหมาะที่สุด
3. อาร์ทตัวแม่…
สำหรับคนที่มีบุคลิกค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เพ้อฝัน รักอิสระ รักการจินตนาการ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบคิด ชอบแสดงความรู้สึกผ่านผลงานทางศิลปะ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย ตัวหนังสือ และดนตรี เป็นต้น
อาชีพที่เหมาะสม : ผู้กำกับการแสดงละคร นักดนตรี นักโฆษณา นักแสดง นักประชาสัมพันธ์ ผู้ทำรายการวิทยุ นักออกแบบ นักวิจารณ์ สถาปนิก จิตรกร นักถ่ายภาพ นักแต่งเพลง นักเขียนบท เป็นต้น เพราะอาชีพเหล่านี้ต้องใช้จินตนาการสูงจริงๆ
4.จริงจังกับชีวิต!!
คนจริงจัง มุ่งมั่น กล้าแสดงออกทางความคิดและความรู้สึก ชอบลงมือและชอบทำให้สุดทางจนกว่าจะสำเร็จ ไม่ท้อถอยให้กับสิ่งที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย
อาชีพที่เหมาะสม : พนักงานป่าไม้ เกษตรกร นักวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญทางเอกซเรย์ นักเดินเรือ ไกด์นำเที่ยว นักวิจัย หมอ พยาบาล เป็นต้น เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความตั้งใจสูง เพื่อให้งานสามารถสำเร็จไปได้ด้วยดี
5. ชอบเข้าสังคม
บุคลิกที่ชอบเจ้าสังคม ชอบทำงานร่วมกับผู้อื่น ชอบแสดงความคิดเห็น มีจิตอาสา รักพวกพ้อง ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง ชอบสังสรรค์ และต้องการการมีตัวตนในหมู่คณะ ไม่ชอบอยู่คนเดียว
อาชีพที่เหมาะสม : ผู้บริหารงานชุมชน ตัวแทนธุรกิจ จิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล ผู้ทำงานในชุมชน ไกด์นำเที่ยว นักประชาสัมพันธ์ นักข่าว เป็นต้น เพราะคนที่ชอบเข้าสังคมมักชอบเรียนรู้สังคมภายนอกมากกว่าการอยู่ในกรอบเล็กๆ bangkok private investigator
6. สู้ชีวิต!!
มีบุคลิกที่มุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือปัญหาใดๆ ต้องการทำให้ชีวิตวันนี้ และพรุ่งนี้ดีขึ้น และมีคุณค่าต่อการดำรงชีวิต ชอบเอาชนะ ลบคำสบประมาท และคำดูถูก
อาชีพที่เหมาะสม : เจ้าของธุรกิจส่วนตัว เกษตรกร วิศวกร ผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องใช้กำลังทั้งหมดที่ตัวเองมีทำอาชีพเหล่านี้ด้วยพลังของตัวเองโดยไม่พึ่งพาคนอื่น