
สมบัติสำคัญของผู้ประกอบอาชีพ นักสืบเอกชน
1. มีความอดทนสูง
นักสืบเอกชน เป็นกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก เนื่องจากลักษณะงานเน้นไปที่การเฝ้าติดตามพฤติกรรมรายบุคคลเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนและปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขมากมาย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาบุคลากรที่เหมาะสมกับงานประเภทนี้ เพราะพวกเขาต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการตนเองที่ดี เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ อาทิ สามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้เป็นระยะเวลานาน รายงานสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง และเฝ้ามองเป้าหมายอย่างไม่คลาดสายตา เป็นต้น
2. เป็นคนช่างสังเกต
คุณสมบัติที่ดีของผู้ประกอบอาชีพนักสืบ คือมีบุคลิกช่างสังเกต เก็บรายละเอียดของเป้าหมายหรือวัตถุพยานต่างๆได้อย่างครบถ้วน รวมถึงมีไหวพริบสามารถพลิกแพลงสถานการณ์เพื่อสืบค้นข้อมูลหลักฐานได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย เพราะบางครั้งโอกาสในการเข้าถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง
3. ทำงานเป็นทีมได้ดี
หลายคนอาจคุ้นเคยกับบทบาทของนักสืบในภาพยนตร์ หรือการ์ตูน ที่มีพระเอกบินเดี่ยวเก็บเกี่ยวข้อมูลหลักฐานได้อย่างเหนือชั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการสืบหาข้อมูลหลักฐานในแต่ละเรื่อง ต้องอาศัยทีมงานเครือข่าย และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคอยให้คำแนะนำตลอดเวลา เพื่อลดผลกระทบที่จะตามมาในภายภาคหน้านั่นเอง ดังนั้นนักสืบมืออาชีพจะต้องมีทัศนคติที่ดี สามารถรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนสามารถเข้าใจจุดประสงค์ของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สืบเนื่องจากปัจจัยข้อนี้อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของทีมงานมืออาชีพมีอัตราสูงกว่าท้องตลาดสักเล็กน้อย แต่หากเรามองในแง่ของคุณภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือในข้อมูลที่ได้รับแล้วยังถือว่าคุ้มค่า เกินราคา และประหยัดเวลาอันมีค่าของท่านได้มากมาย งาน นักสืบ
4. เก็บความลับเก่ง
จรรยาบรรณที่สำคัญที่สุดสำหรับวิชาชีพนักสืบ คือการเก็บรักษาความลับของผู้ว่าจ้าง เพราะบางเรื่องมีความละเอียดอ่อนที่ไม่สามารถเปิดเผยให้กับสาธารณะชนรับรู้ได้ ดังนั้นการทำงานของนักสืบส่วนใหญ่จะต้อง กระชับ ฉับไว ไม่ยืดเยื้อ เมื่องานที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น ก็จะไม่ติดต่อหรือกระทำการใดอันเป็นการรบกวนผู้ว่าจ้างด้วยประการทั้งปวง
5. มีความระมัดระวัง
ความปลอดภัยคือเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เพราะงานนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย และอาจจะขัดต่อผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้ ดังนั้นการเฝ้าติดตามหรือเสาะหาพยานหลักฐานต้องใช้ความระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อาทิ การเฝ้าติดตามต้องมีการทิ้งระยะห่างไว้พอสมควรเพื่อไม่เป็นที่สังเกตและเสี่ยงต่อการถูกจับได้ หรือหากตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง สามารถติดต่อทีมงาน หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยได้ทันท่วงที ตลอดจนสามารถเตรียมแผนป้องกันและหาทางหนีทีไล่ในกรณีฉุกเฉิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
เส้นทางการเป็น ยอดนักสืบ มืออาชีพที่น่าสนใจ
นักสืบอาชีพนี้เราดูในโทรทัศน์ หนัง ภาพยนตร์ ซีรีย์ การ์ตูน ก็ดูเหมือนจะเป็นอาชีพที่น่าสนุก น่าสนใจ ได้เสี่ยงอันตรายเพื่อจะล้วงข้อมูลเป้าหมาย จากนั้นก็เอามาเปิดเผยในตอนท้ายทำให้ตัวเองกลายเป็นฮีโร่ แต่ความจริงการเป็นนักสืบไม่ง่ายเลยยากกว่าที่เห็นในหนังเยอะมาก หากเราอยากเป็นนักสืบเอกชนกับเขาบ้างต้องเรียนรู้เรื่องอะไรจะได้ไปถึงเส้นทางตรงนั้น
รู้จักเทคโนโลยี
เทคโนโลยีถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำงานนักสืบเลย เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การเก็บหลักฐานของเราง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น รวดเร็วขึ้น นักสืบที่ดีจะต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือที่จะต้องเก็บได้ทั้งภาพ เสียง คลิปวิดีโอ คำพูด ของเหล่านี้จำเป็นมาก กล้องรูเข็ม เครื่องอัดเสียง หรือ เครื่องมือติดตาม ต้องใช้ได้ ใช้เป็น จะทำให้การทำงานสืบสวนของเราดีขึ้น
ฝึกฝน poker face
แนบเนียน กลมกลืนดั่งกิ้งก่าเปลี่ยนสี คงจะเป็นนิยมที่ใกล้เคียงสุดของการทำงานนักสืบ อย่างที่รู้กันนักสืบจะต้องหาทางเข้าใกล้เป้าหมายให้ได้มากที่สุดเพื่อล้วงความลับออกมา งานของนักสืบส่วนใหญ่จึงต้องเข้าไปเจอคนใหม่ สถานที่ใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ ซึ่งเราต้องเข้าไปให้แนบเนียนที่สุดไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ตกลางป่าที่ไม่เคยเข้าไป หรือ งานเลี้ยงโรงแรมระดับห้าดาวที่ดูจะห่างจากตัวเรา ดังนั้นนักสืบจะต้องฝึกความแนบเนียนดั่ง poker face คือ หน้าของนักพนันที่จะไม่ไหวติง ไม่ก่อพิรุธอะไรเลย แม้จะเกิดอันตรายตรงหน้าก็ตาม
เรียนรู้ทักษะอันหลากหลาย
การเข้าหาเหยื่อ เป้าหมาย นักสืบจะต้องเรียนรู้ว่าเขาชอบไปที่ไหน ทำงานอะไรเป็นงานอดิเรก นักสืบจึงต้องมีการเรียนรู้ทักษะอันหลากหลายเพื่อเข้าสังคมกับเป้าหมายให้ได้ บางคนต้องหัดไปเล่นกอล์ฟ ขี่ม้า ขับเรือ ยิงปืน เพื่อที่จะสอดแทรกเข้าใกล้เหยื่อให้ได้ นักสืบจึงต้องเป็นดั่งพหูสูตมีความรู้ ทักษะหลากหลายอย่างเพื่อใช้งานได้ถูกจุด
ทักษะการฟัง
สำหรับคนที่ต้องการสืบเรื่องของเหยื่อเกี่ยวกับจับเท็จ จับชู้ ซ่อนกิ๊ก สิ่งที่สำคัญมากก็คือ ทักษะการฟัง นักสืบที่ดีต้องมีทักษะการฟังเป็นเลิศ บางทีเข้าไปใกล้เป้าหมายเพื่อฟังประโยคที่เขาพูด 2-3 ประโยคก็ต้องจับให้ได้ว่า เขาพูดอะไร จะไปที่ไหน ไปเจอกับใคร ตอนไหน เวลาไหน ต้องจับให้ทัน ฟังให้ชัด อย่าลืมว่าเราไม่สามารถบอกให้เป้าหมายพูดซ้ำอีกครั้งได้ ทุกอย่างจะมาเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ต้องหูทิพย์ ฟังดี จำแม่น ประมวลผลไว ไม่งั้นก็ติดตามเหยื่อไม่ได้
จะเห็นว่าการเป็นนักสืบนั้นไม่ได้มีกฎตายตัวว่าจะต้องเรียนจบอะไรมาเป็นพิเศษ เพราะว่าหน้างานนักสืบเองก็อาจจะต้องเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ทักษะใหม่เพื่อเข้าแทรกซึมไปหาเป้าหมายให้ได้ เรื่องสำคัญก็คือ เราจะต้องเป็นคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนตลอดเวลา หมั่นหาความรู้เรื่องราวเพื่อพัฒนาตนเองจะได้เป็นนักสืบที่มีความสามารถหลากหลายมากขึ้น
สืบสวนอย่างไรให้รู้ความลับ
องค์กรสืบส่วนแต่ละคนก็มีกระบวนการสืบที่แตกต่างกันออกไป แต่ในระดับสากลแล้วมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างมากเท่าไหร่นัก องค์กรเหล่านี้มักจะมีวิธีการที่คล้ายคลึงกันความสำเร็จขึ้นอยู่กับฝีมือ และจรรยาบรรณของแต่ในองค์กร พวกเขามักถูกจ้างให้สืบสวนความลับทุจริตของบริษัท, ผู้บริหาร, นักธุรกิจ รวมถึงรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้ต้องหาต่างๆ อย่างเช่นงานสืบคดีค้ายาว่านายคนนี้ได้ครอบครอง และนำไปขายให้ผู้อื่นหรือไม่ ต่อไปนี้คือ 2 วิธีหลักในการสืบขององค์กรทั่วไปที่ใช้ในระดับสากล
1.ตั้งทีมติดตาม
งานหลักขององค์กรสืบสวน ที่มักจะทำกันเพื่อตามสืบผู้ต้องหาโดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน การติดตามเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญเพื่อรวบรวมหลักฐาน เพราะถ้าให้นั่งอยู่เฉยๆ หลักฐานมันคงจะไม่ลอยมาเอง โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่มีประวัติขาวสะอาดจนน่าสงสัย สิ่งที่พวกองค์กรจะทำเพิ่มความมั่นใจว่าเขาขาวสะอาดจริงคือติดตามผู้ต้องหาคนนี้ ถ้าเกิดว่าเขาทำอะไรที่ผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็จะบึนทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน อุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้ส่วนใหญ่คือ กล้องถ่ายภาพ อุปกรณ์บันทึกเสียง สมุดบันทึก
งานติดตามเป็นอะไรที่อันตรายมากเพราะมีโอกาสที่จะถูกจับได้ ลองคิดดูว่าตามผู้ต้องหาค้ายาเสพติดแล้วโดนฝ่ายตรงข้ามจับได้คงจะจบไม่สวยแน่ ดังนั้นคนที่จะทำงานตามสืบได้ต้องเป็นคนที่มีทักษะหลายด้าน โดยเฉพาะความไหวตัวทันก่อนที่จะถูกจับตัว ส่วนใหญ่แล้วงานอันตรายแบบนี้มักจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานตำรวจ สำหรับเอกชนมักจะได้งานตามสอบทุจริตและเรื่องชู้สาวมากกว่า
2.แทรกซึมเข้ากลุ่มของเป้าหมาย
ไม่มีใครรู้อะไรดีเท่ากับคนวงใน การเข้าไปอยู่ในส่วนหนึ่งของเป้าหมายช่วยให้เรามีโอกาสเข้าถึงข้อมูลและหลักฐานมากที่สุด และยังเป็นวิธีที่อันตรายกว่าสุดอีกด้วย วิธีนี้เรามักจะเห็นใช้กันในสายตำรวจที่มีการส่งตำรวจไปอยู่ในกลุ่มค้ายาบ้า เมื่อถึงวันซื้อขายกันข้อมูลการนัดพบก็จะถูกส่งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อส่งกำลังมาจับกุมในที่สุด แผนแทรกซึมมีประสิทธิภาพสูงกว่าแผนอื่นๆช่วยให้เรารู้ความลับในอดีตและอนาคตของเป้าหมาย แต่เป็นแผนที่ต้องค่อยเป็นค่อยไปใช้เวลานาน 1 เดือน จนถึง 1 ปี
โดยเฉพาะหน่วยงานสืบของเอกชนหรือนักสืบอิสระที่จะเข้าไปสืบความลับบริษัทหนึ่ง จะต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้เข้าถึงตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงความลับที่ต้องการได้ งานพวกนี้มีความอันตรายมาก บางงานอันตรายถึงชีวิต ถ้าเกิดไปสืบในเรื่องความลับทางการค้าให้กับบริษัทฝ่ายตรงข้าม ถ้าถูกจับได้อาจโดนดำเนินคดีทางอาญาอีกด้วยในข้อหาเปิดเผยความลับทางการค้า ถูกจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกินพันบาท
GADGET ยอดนิยมของบรรดาสายลับมืออาชีพ
อาชีพนักสืบถือว่าเป็นอาชีพที่ต้องมีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมสูงมาก เนื่องจากสถานการณ์ข้างหน้าระหว่างสืบจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ได้ นั่นทำให้พวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมได้มากที่สุด อุปกรณ์เป็นตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย เอาตัวรอดไปในทางที่ดีได้ นักสืบเอกชนในบ้านเราต้องพกอะไรไปทำงานบ้าง
อุปกรณ์พรางตัว
เสื้อผ้าเป็นเครื่องมือด่านแรกที่นักสืบต้องมีติดรถไว้เลย เสื้อผ้าต้องมีทั้งปริมาณเยอะ และความหลากหลายด้วย บางครั้งติดตามเป้าหมายไปในสถานที่อื่น ก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับสถานที่เพื่อจะได้ปลอมตัวได้ถูกต้อง อย่างคืนนี้ต้องไปโรงแรมห้าดาวกลางกรุงเทพ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นชุดราตรี หรือ ไปสนามกอล์ฟ ก็ต้องมีชุดกีฬาติดไว้รวมถึงไม้กอล์ฟด้วย ยังไม่รวมถึงอุปกรณ์พรางตัวขั้นพื้นฐานอย่าง วิกผม แว่นตา เครื่องสำอางค์ ต้องพร้อมใส่ลุย
ไม่เพียงแค่นั้น นักสืบจะต้องพกอุปกรณ์บางอย่างสำหรับเข้าสถานที่พิเศษด้วย อย่างถุงไม้กอล์ฟ ไม้เทนนิส ชุดว่ายน้ำ หรือ ถุงมือเล่นฟิตเนส เผื่อเป้าหมายไปเล่นกีฬาชนิดไหนก็จะได้สวมรอยติดตามได้เลยอย่างแนบเนียน มันคงจะดูแปลกที่เข้าไปสนามไดร์ฟกอล์ฟ แต่ไม่มีถุงไม้กอล์ฟ ใช่ไหม
อุปกรณ์บันทึก
การเข้าถึงตัวเป้าหมายสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญสุดก็คือ การบันทึกภาพ เสียง คำพูด คลิป เพื่อนำไปเป็นหลักฐานอ้างอิงกับลูกค้าที่มาจ้างเรา นั่นทำให้นักสืบต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้อย่างเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นกล้องวิดีโอ เครื่องอัดเสียง กล้องถ่ายรูป และอีกมากมาย ของพวกนี้นอกจากจะเป็นเครื่องยืนยันข้อมูลที่สืบมา ยังเป็นหลักฐานว่าเรามาทำงานจริงไม่มั่วนิ่มข้อมูลให้กับลูกค้าอีกด้วย อุปกรณ์พวกนี้สมัยนี้ดีหน่อยที่เล็ก คุณภาพสูง ทำให้งานออกมาดีขึ้น
บัตรประจำตัว
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นมากสำหรับการปลอมตัวเข้าไปหาเป้าหมาย ก็คือ บัตรประจำตัวต่างๆ อย่างเช่นบัตรออฟฟิศ บัตรผ่านทาง บัตรสมาชิก ของเหล่านี้ต้องมีไว้เป็นเครื่องมือผ่าน ลองนึกภาพเราต้องแทรกซึมเข้าไปในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่มีหลายออฟฟิศอยู่รวมกัน หากจะผ่านยามให้ได้เราก็ต้องมีบัตรพนักงาน (ปลอม) เพื่อให้ยามไม่สงสัยหากไม่ห้อยบัตรรับรองไม่ผ่านตั้งแต่ด่านแรกแล้ว รวมถึงสถานที่บางอย่างอาจจะต้องมีบัตรสมาชิกถึงจะเข้าได้ก็มี
เครื่องมือสื่อสาร
สืบสวนความจริงสมัยนี้ การทำงานคนเดียวแบบ one man show ใช้ไม่ได้แล้ว การทำงานเป็นทีมจะทำให้ผลงานออกมาดีกว่า นักสืบที่ดีจะต้องมีทีมคอยสนับสนุนการทำงานเพื่อให้งานออกมาดี เป้าหมายไหวตัวไม่ทัน นั่นทำให้นักสืบจะต้องพกอุปกรณ์สื่อสารติดตัวเสมอเพื่อประสานทีมงาน อีกทั้งส่งสัญญาณช่วยเหลืออีกด้วย หากขาดเครื่องสื่อสารการทำงานของเราจะสะดุดได้ ของเหล่านี้พอรวมกันทำให้การออกไปทำงานแต่ละครั้งของนักสืบหนักไม่ใช่เล่น
4 สิ่งที่คุณควรมี หากอยากเป็นสายลับ CIA
อาชีพสายลับเราเห็นในหนังแล้วมันช่างเป็นอาชีพที่เก่ง เท่ ดูดีมาก ลองนึกภาพเราแต่งตัวเป็นเหมือนกับ ทอม ครูซ ในบทบาท อีธาน ฮันท์ จากสายลับซีรีย์ Mi ดูสิ หรือจะเป็นสายลับหน้าหล่อ คารมดี สาวรายล้อมอย่าง เจมส์ บอนด์จากหน่อย mi6 แต่ในความเป็นจริงการทำงานอาชีพสายลับให้กับรัฐบาลมีสิ่งที่เราต้องแลกด้วยเหมือนกัน มีอะไรบ้าง พร้อมแลกหรือไม่
เหินห่างครอบครัว
การเป็นสายลับต้องบอกเลยว่า เราอาจจะต้องห่างเหินจากครอบครัวตัวเองไปเลย ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ พี่น้อง เนื่องจากว่าสายลับต้องตั้งอยู่บนความเสี่ยง ไปไหนมาทีหายไปเป็นเดือน อีกทั้งจะต้องไม่บอกให้เค้ารู้ด้วยว่าตัวเองเป็นสายลับเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยของครอบครัว อย่าถามว่าจะมีครอบครัว คนรัก ลูกได้ไหม แม้จะมีได้แต่บอกเลยว่าอย่ามีดีกว่าไม่งั้นจะอันตรายต่อตัวเองและคนที่เรารัก
ทิ้งตัวตนทุกช่องทาง
ไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไร บางครั้งเราก็อยากจะแสดงตัวตนของเราออกมา ไม่ว่าจะถ่ายรูปลงโซเชียล อัพเดตเฟส ของตัวเอง ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ความชอบ และอีกมากมาย แต่หากเราเข้าเป็นสายลับ สายสืบของทางรัฐบาล เราต้องละทิ้งตัวตนของตัวเองออกไป เราไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้เลย เรียกได้ว่าจะต้องเป็นคนที่หาตัวจับยาก คนล่องหน คนที่คนอื่นคิดว่าตายไปแล้วยิ่งดี เพราะมันจะทำให้การแทรกซึมทำได้มากขึ้น
ทิ้งอัตตา ทิ้งอีโก้
งานสายลับเป็นงานที่ไม่แน่นอน เรื่องของเวลาและบทบาทในการทำงาน บางครั้งเราอาจจะต้องแทรกซึมเข้าไปทำงานในองค์กรสวยหรู ดูดี แต่บางงานอาจจะต้องเข้าไปหาข้อมูลในสถานที่อโคจร สถานที่สกปรก สถานที่ที่เราไม่คิดจะย่างกรายเข้าไปเลยแม้แต่น้อย แต่เพื่องานเราก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นเราต้องทิ้งอีโก้ ทิ้งอัตตาทั้งหมดออกไป เปรียบเสมือนตัวเองเป็นภาชนะเปล่าเพื่อรองรับบทบาทใหม่ได้ทุกรูปแบบ
ทิ้งเวลา
เวลาเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเลย สำหรับอาชีพสายลับ บางครั้งการไปทำภารกิจแต่ละอย่างอาจจะต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือ เป็นปีด้วยซ้ำ แถมงานบางครั้งก็มาแบบไม่แน่นอน กำลังพักผ่อนอยู่ดีๆ ก็อาจจะต้องไปแบบไม่รู้ตัวก็ได้ เรียกได้ว่าทิ้งเวลาทั้งชีวิตเพื่องานสายลับก็ว่าได้ หากเราพร้อมจะแลกเวลาเพื่องานที่เรารัก
การทำงานแต่ละอย่างนั้นมีทั้งด้านบวก และด้านลบ นี่คือสิ่งที่คนทำงานสายลับทุกคนต้องเจอ หากเราพร้อมที่จะแลกสิ่งเหล่านี้เพื่อการได้เป็นสายลับของทางการก็เดินหน้าต่อได้เลย ประเทศชาติต้องการคนอย่างท่านแล้ว